ยุคนี้ไม่ว่าจะทำธุรกิจขายสินค้าอะไร หากเป็นสินค้าที่สามารถเคลื่อนย้ายหรือจัดส่งได้ ก็สามารถทำการตลาดผ่านออนไลน์และขายในรูปแบบ E-Commerce ได้ทั้งสิ้น แต่การจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เรียกได้ว่าเป็นโจทย์หินของผู้ประกอบการตั้งแต่การเริ่มต้นพัฒนาแพลตฟอร์มเลยทีเดียว
ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในทุกอุตสาหกรรม จะทำอย่างไรให้แพลตฟอร์ม E-Commerce ของเราประสบความสำเร็จ และสร้างยอดขายให้เติบโตได้แบบทะลุเป้า มาดู 7 กุญแจสำคัญในการออกแบบแพลตฟอร์ม E-Commerce ให้น่าใช้และสินค้าน่าซื้อ เพื่อแจ้งเกิดให้ธุรกิจของคุณกลายเป็นตัวท็อปในตลาดกัน
1. รองรับการใช้งานผ่านทุกอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ
กุญแจดอกแรกที่ต้องให้ความสำคัญ หากคิดอยากพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับขายสินค้าและบริการออนไลน์ คือต้องออกแบบให้รองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ส่งผลให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้งานด้วยอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน แพลตฟอร์มจึงต้องประยุกต์ใช้ได้กับทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน รวมทั้งรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า
2. ออกแบบ UX/UI ให้ใช้งานและเข้าใจง่าย
ประสบการณ์การใช้งานถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Commerce การออกแบบระบบค้นหา การฟิลเตอร์ การจัดหมวดหมู่สินค้า รวมทั้งหน้าต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มให้ตอบสนองผู้ใช้ได้อย่างไร้รอยต่อ จึงเป็นสิ่งสำคัญ หรือที่เรียกว่า UX และ UI นั่นเอง
- UX (User Experience) : ประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้ขณะที่ใช้งานแพลตฟอร์ม ครอบคลุมทั้งความรู้สึก การรับรู้ และการตอบสนองของผู้ใช้
- UI (User Interface) : ส่วนต่อประสานที่ผู้ใช้มองเห็นและโต้ตอบโดยตรง เช่น หน้าจอ ปุ่ม ไอคอน และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวกที่สุด
3. มีระบบรองรับการชำระเงินที่หลากหลาย สั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เหตุผลหนึ่งที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลก เพราะความสะดวกสบาย สามารถซื้อสินค้าได้จากทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้น แพลตฟอร์มของคุณจึงต้องรองรับคำสั่งซื้อและการชำระเงินได้ตลอดเวลา รวมถึงสามารถจ่ายเงินได้ผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น การโอนเข้าบัญชี, ชำระผ่าน QR Code, ชำระด้วยบัตรเครดิต, ชำระผ่าน PayPal เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วย
4. บริการลูกค้าแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ Customer Service และ Chatbot
เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกค้าจะพบปัญหาในการสั่งซื้อ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการ อย่าลืมติดตั้งระบบ Customer Service ที่มีประสิทธิภาพ ระบุช่องทางการติดต่อลงในแพลตฟอร์ม E-Commerce ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือ LINE Official Account และในแพลตฟอร์มควรมีระบบแชตเพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ รวมถึงติดตั้งระบบ Chatbot เพื่อตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็ว และลดภาระของพนักงานให้ไม่ต้องคอยสแตนด์บายตอบคำถามลูกค้าตลอดเวลา

5. กระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าด้วยโปรโมชันและ Social Proof
นอกเหนือจากประสบการณ์ด้านการใช้งานและการซื้อที่น่าประทับใจแล้ว สิ่งที่จะทำให้แพลตฟอร์ม E-Commerce ของคุณทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ คือยอดขายสินค้า ซึ่งกระตุ้นให้เติบโตได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้โปรโมชัน เช่น ส่วนลด ของแถม หรือเซตสินค้าราคาพิเศษ และเพิ่มความน่าเชื่อถือจาก Social Proof ไม่ว่าจะเป็นรีวิวจากผู้ใช้จริง หรือการใช้ Influencer ที่สอดคล้องกับสินค้า
6. ใช้ภาพสินค้าจริงที่สวย คมชัด มีคุณภาพสูง
เมื่อเป็นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ลูกค้าย่อมไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ สิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้ จึงเป็นการถ่ายทอดจุดแข็งของสินค้าผ่านภาพสินค้าจริงที่คมชัด ถ่ายโดยมืออาชีพ เพื่อสื่อสารคุณสมบัติและข้อดีของสินค้าอย่างครบถ้วน และควรมีภาพหรือวิดีโอตัวอย่างการใช้งานประกอบ เพื่อให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
7. มีการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างสม่ำเสมอ
สุดท้ายคือการพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่างสม่ำเสมอ โดยมีทีมนักพัฒนามืออาชีพคอยดูแลระบบอย่างใกล้ชิด รวมถึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์กับเทรนด์และความต้องการใช้งานของลูกค้า เช่น ระบบ Live Streaming ระบบติดตามคำสั่งซื้อที่ได้มาตรฐาน บริการหลังการขาย สร้างประสบการณ์ที่ดีเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำในอนาคต
อยากสร้างแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่มีคุณภาพ รองรับการซื้อขายสินค้าและบริการทุกประเภท ยกระดับธุรกิจสู่การเป็นผู้นำในตลาด เลือกใช้บริการพัฒนาเว็บไซต์ แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันจาก PALO IT ช่วยคุณสร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเหมาะกับประเภทสินค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ รับคำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่เบอร์ 02-180-6121 และอีเมล thailand@palo-it.com