ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้าขึ้นเท่าไร นักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ยิ่งต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำงานที่มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนมากขึ้น การทำงานกับเทคโนโลยีที่หลากหลาย หรือการต้องส่งมอบผลงานในกรอบเวลาที่สั้นลง ด้วยเหตุนี้การใช้เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ดจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น และหนึ่งในเครื่องมือที่ร้อนแรงสุด ๆ จนใคร ๆ ก็ต้องพูดถึงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้องยกให้กับ GitHub Copilot โดยบทความนี้จะพาไปสำรวจสิ่งนี้อย่างรอบด้าน เพื่อให้เห็นภาพว่าทำไม GitHub Copilot คือ Game-Changer ที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องรู้จัก อ่านเลย
GitHub Copilot คืออะไร ?
GitHub Copilot คือเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะที่พัฒนาโดย GitHub ร่วมกับ OpenAI โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่เรียกว่า Large Language Model (LLM) ซึ่งได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลโค้ดจำนวนมหาศาลจากคลังโค้ดสาธารณะบน GitHub Copilot ทำหน้าที่เสมือนเป็น "ผู้ช่วยเขียนโค้ด" ที่คอยให้คำแนะนำและเสนอแนะโค้ดในขณะที่นักพัฒนากำลังเขียนโปรแกรม
เรียกได้ว่า GitHub Copilot เปรียบเสมือน "AI Pair Programmer" ที่ทรงพลัง สามารถแนะนำ Code Snippets และ Complete Functions ได้อย่างชาญฉลาด ในขณะที่เรากำลัง Coding อยู่
วิธีการทำงานของ GitHub Copilot
วิธีการทำงานของ GitHub Copilot คือการใช้กระบวนการวิเคราะห์และเรียนรู้จากโค้ดที่นักพัฒนากำลังเขียน และสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังทำงานได้ โดยมีรายละเอียดวิธีการทำงานดังนี้
- วิเคราะห์บริบทของโค้ดที่กำลังเขียน : Copilot จะวิเคราะห์เนื้อหาของโค้ดที่นักพัฒนากำลังทำงาน รวมถึงคอมเมนต์และ Function Names เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทของงานที่กำลังทำ
- สร้างคำแนะนำโค้ดโดยอ้างอิงจากรูปแบบและ Best Practices : ใช้ข้อมูลที่เรียนรู้มาจาก Training Data เพื่อสร้างคำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับโค้ดที่นักพัฒนากำลังเขียน โดยคำแนะนำเหล่านี้จะยึดตาม Best Practices ที่ได้รับการยอมรับในวงการ
- แสดงผลเป็น Inline Suggestions : Copilot จะแสดงคำแนะนำเป็น Inline Suggestions ที่นักพัฒนาสามารถเลือกยอมรับหรือปฏิเสธได้โดยง่าย
ประโยชน์ของ GitHub Copilot
- พัฒนาโค้ดได้เร็วขึ้น : Copilot ช่วยลดเวลาในการเขียนโค้ดพื้นฐานและงานที่ซ้ำซากลงได้อย่างมาก ทำให้เราสามารถโฟกัสกับการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
- ลดภาระทางความคิด : เมื่อต้องจัดการกับอัลกอริทึมที่ซับซ้อน หรือการผสานรวม API Copilot สามารถเสนอแนะโครงสร้างโค้ดที่เหมาะสม ทำให้เราไม่ต้องจดจำทุกรายละเอียด
- เป็นเครื่องมือเรียนรู้ : สำหรับนักพัฒนามือใหม่ GitHub Copilot คือครูสอนเขียนโค้ดที่ดี ช่วยแนะนำรูปแบบการเขียนโค้ดที่ดีและมีคลังโปรแกรมหรือ Library ใหม่ ๆ ที่ยังไม่รู้จัก
- รองรับหลายภาษา : ไม่ว่าจะเขียนโค้ดด้วยภาษา JavaScript, Python, Java, C++ หรือแม้แต่ภาษาที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม Copilot ก็สามารถช่วยได้อย่างไร้ปัญหา
- เรียนรู้แบบปรับตัว : ยิ่งใช้งานนานเท่าไหร่ Copilot ก็จะยิ่งเรียนรู้และปรับเข้ากับสไตล์การเขียนโค้ดของเรามากขึ้นเท่านั้น
วิธีการใช้งาน GitHub Copilot
สำหรับใครที่สนใจลองใช้งาน GitHub Copilot นี่คือขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มต้นใช้งาน สามารถทำตามได้เลย
- สมัครใช้งาน : เริ่มจากการสมัครใช้งาน GitHub Copilot ซึ่งมีทั้งแบบส่วนบุคคลและสำหรับธุรกิจ โดยมีค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือรายปี
- ติดตั้ง Extension : ติดตั้ง Extension สำหรับ IDE ที่ใช้งาน Copilot รองรับ IDE หลัก ๆ เช่น VS Code, Visual Studio, JetBrains IDEs และ Neovim
- เข้าสู่ระบบ : ล็อกอิน GitHub ใน IDE ที่ติดตั้งก่อนเริ่มต้นใช้งาน
- เริ่มใช้งาน : หลังจากติดตั้งเสร็จ สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที โดย Copilot จะทำงานในพื้นหลังและเสนอแนะโค้ดให้คุณอัตโนมัติ
- ใช้ปุ่มลัด : เรียนรู้การใช้ปุ่มลัดเพื่อเรียกใช้ ยอมรับ หรือปฏิเสธคำแนะนำจาก Copilot จะช่วยให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
- ปรับแต่งการทำงาน : สามารถปรับการทำงานของ Copilot ผ่านการตั้งค่าใน IDE เพื่อให้เหมาะสมกับโปรเจกต์
ข้อควรระวังในการใช้งาน ถึงแม้ว่า GitHub Copilot จะช่วยเราได้มาก แต่เราไม่ควรเชื่อถือหมดใจโดยไม่ตรวจสอบ เนื่องจากโค้ดที่ Copilot แนะนำอาจมีข้อผิดพลาดหรือไม่เหมาะสมกับบริบทของโปรเจกต์ได้ ดังนั้น การตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดยังคงเป็นสิ่งที่ต้องทำ
เรียนรู้การใช้ GitHub Copilot ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานได้ทันที
บริษัทองค์กรต่าง ๆ สามารถติดสปีด เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การเขียนโค้ดได้ง่าย ๆ เพียงให้บุคลากรมาเรียนรู้การใช้งาน GitHub Copilot ผ่านการเทรนนิ่งโดย GitHub Official Partner กับทาง PALO IT เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับ GitHub Certification ช่วยเทรนทีมของคุณให้เขียนโค้ดได้ดีขึ้น กรอกข้อมูลในหน้าเว็บไซต์เพื่อติดต่อเราได้เลย